"ศรีสุวรรณ" จี้เอาผิด "ฌอน" ใช้เงินบริจาคผิดวัตถุประสงค์

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.sanook.com/

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เผยออกมาว่า จากที่นายฌอน บูรณะหิรัญได้โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัวประชาสัมพันธ์ขอรับเงินช่วยเหลือระหว่างวันที่ 30 มี.ค.2563 จนกระทั่ง 1 พ.ค. 2563 ก่อนหน้านี้ จากแฟนเพจเพื่อนำมาช่วยดับไฟป่าดอยสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้ร่วมบริจาคเป็นจำนวนเงิน 875,741.53 บาท แต่นำเงินช่วยเหลือส่วนใดส่วนหนึ่งค่า 254,516.53 บาท มาใช้ทำสื่อเพื่อโปรโมทตัวเองนั้น

พื้นฐานการรับบริจาคดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นถึงแม้มีเป้าประสงค์เป็นไปเพื่อผลดีสาธารณะ แม้กระนั้นจำเป็นจะต้องขอจากคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรซะก่อนตามความลับ มัธยม6 ประกอบ มัธยม8 ที่ พรบ.ควบคุมการเรี่ยไร พุทธศักราช2487 ซึ่งตามกฎกระทรวงตั้งบุคลากรข้าราชการ กำหนดให้นายอำเภอ เป็นบุคลากรข้าราชการตาม มัธยม8 สำหรับในเขตพื้นที่ชนบท ซึ่งจำต้องตรวจดูถัดไปว่าผู้ขออนุญาตเคยถูกลงโทษเกี่ยวกับทรัพย์สิน ข่มขู่ ฉ้อฉล ยักยอกทรัพย์สิน หรือโกงต่อหน้าต่อตาที่โดยชอบด้วยกฎหมายลักษณะอาญาหรือเปล่า ถ้าหากคนไหนกันแน่ละเมิดย่อมมีความผิดตาม มัธยม17 ประกอบ มัธยม19 ได้หรือถ้าเกิดผู้ดำเนินกิจกรรมปกปิดปิดบังข้อสรุปก็บางทีอาจเข้าเกณฑ์ข้อผิดพลาดฐานฟ้องร้องเท็จตาม รถโดยสารประจำทางปรับอากาศมัธยม172 ด้วย ข่าวกีฬา

สโมสรหน่วยงานป้องกันรัฐธรรมนูญไทย ก็เลยได้ทำหนังสือร้องทุกข์ไปยังอธิบดีกรมการปกครองเพื่อขอให้สำรวจว่ากรณีการขอรับบริจาคของนายฌอน ซ่อมหิรัญ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นนั้นได้ปฏิบัติการไม่ผิดกฎหมายไหม ดังต่อไปนี้ 1)กิจกรรมการเรี่ยไรดังที่กล่าวมาข้างต้นมีการทำงานขอจากนายอำเภอเมือง จังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ ตามกฎกระทรวง ที่ พรบ.ควบคุมการเรี่ยไร 2487 แล้วหรือเปล่า ยังไง 2)กิจกรรมการเรี่ยไรดังที่กล่าวผ่านมาแล้วมีการผลิใบรับเงินให้กับผู้สงเคราะห์ทุกคนและก็มีต้นขั้วใบรับไว้เป็นหลักฐานตามที่ตั้งไว้ใน มัธยม13 ไหม 3)เงินช่วยเหลือที่ได้มาดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น มีการใช้ประโยชน์จ่ายสำหรับในการทำสื่อเพื่อโฆษณาตัวเอง ได้แก่การใช้เงินไม่ถูกเป้าหมายตาม มัธยม14 หรือเปล่า เช่นไร และก็ถ้าเกิดใช้ประโยชน์ไม่ถูกจุดหมายบางทีอาจอยู่ในข่ายข้อผิดพลาดฐานหลอกลวง โดยชอบด้วยกฎหมายอาญา มัธยม341 พอดีบอกว่า “ผู้ใดกันแน่โดยโกง ฉ้อฉลคนอื่นๆด้วยการแสดงใจความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดเนื้อความจริงซึ่งควรจะบอกให้แจ้งแล้วก็โดยการฉ้อฉลให้ได้ไปซึ่งเงินจากผู้ถูกคดโกง ผู้นั้นทำผิดฐานฉ้อฉล จำต้องระวางโทษติดคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งยังจำอีกทั้งปรับ” ข่าวกีฬา

ดังนี้กิจกรรมการขอรับบริจาคของนายฌอนได้ปฏิบัติงานเสร็จสมบูรณ์ลงไปแล้ว ถ้าเกิดเป็นการปฏิบัติงานที่ฝืนพรบ.ควบคุมการเรี่ยไร พุทธศักราช2487 แล้วก็ประมวลกฎหมายอาญา ก็ย่อมที่จะฝืน พรบ.ความประพฤติปฏิบัติข้อผิดพลาดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 ตามไปด้วย ย่อมถือว่า “เป็นความไม่ถูกที่เสร็จแล้ว” กรมการปกครองจำเป็นต้องปฏิบัติงานทางด้านกฎหมายเพื่อฟ้องร้องฟ้องตามครรลองของข้อบังคับถัดไป ดังนี้ข้อบังคับควรจะเป็นข้อบังคับ ไม่อาจมีข้อละเว้นให้บุคคลใดได้ แม้ว่าจะเป็นคนโปรดของว่าที่หัวหน้าพรรคการบ้านการเมืองใหญ่ของรัฐบาลรวมทั้งกล่าวถึงว่าเพื่อผลดีสาธารณะก็ตาม นายศรีสุวรรณรายงานในที่สุด