WHO พบโควิด-19 มีสัญญาณกลายพันธุ์ แต่ยังไม่มีหลักฐานร้ายแรงขึ้น
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.sanook.com/
องค์การอนามัยโลก เปิดเผยการศึกษาที่พบว่า 30% โคโรนาเชื้อไวรัส โควิด-19 มีสัญญาณของการกลายพันธุ์ แต่ว่ายังไม่มีหลักฐานการันตีว่าเชื้อไวรัสจะทวีความร้ายแรงขึ้น พร้อมตั้งเป้าหมายอีก 2 อาทิตย์ ได้ได้ผลการทดลองยารักษาโควิด-19 ข่าวบอล
หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ประจำองค์การอนามัยโลก โสมญา สวามินาธาน (Soumya Swaminathan) เผยการเล่าเรียนเมื่อวันศุกร์ กล่าวว่า ราว 1 ใน 3 ของแบบอย่างไวรัสโควิด-19 ราว 6 หมื่นแบบอย่างที่เก็บข้อมูลมามีการกลายพันธุ์จริง แต่ว่ายังไม่เจอหลักฐานว่าการกลายพันธุ์ดังกล่าวมาแล้วข้างต้นจะมีผลให้เชื้อมีความร้ายแรงเพิ่มขึ้น ข่าวบอล
ด้าน ดร. มาเรีย แวน เคิร์กโฮฟ หัวหน้าฝ่ายโรคติดเชื้อเกิดใหม่รวมทั้งโรคติดต่อขององค์การอนามัยโลก เสริมเติมว่า เชื้อไวรัสที่กลายพันธุ์ถูกศึกษาและทำการค้นพบเมื่อก.พ.ก่อนหน้าที่ผ่านมา รวมทั้งเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดในยุโรปรวมทั้งอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่พบว่าเป็นสายพันธุ์ที่ร้ายแรงขึ้นอะไร
การให้ข้อมูลของอนามัยโลก เมื่อวันศุกร์ มีขึ้นภายหลังทีมงานนักวิจัย Scripps Research ศึกษาค้นพบว่า เมื่อตอนเมษายนก่อนหน้านี้ เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กลายพันธุ์ ในชื่อ D614G เจอในฐานข้อมูลเชื้อไวรัสราว 65% ทั่วทั้งโลก และก็เชื้อไวรัสกลายพันธุ์ตัวนี้จะมีความเข้าใจสำหรับในการกระจายเชื้อสู่เซลล์ได้มากกว่า ซึ่งเป็นคำชี้แจงว่าเพราะเหตุไรการระบาดหนักในอิตาลีรวมทั้งนิวยอร์ก ก็เลยมากยิ่งกว่าในตอนแรกเริ่มของการระบาดเมื่อต้นปี
อีกด้านหนึ่ง เมื่อวันพฤหัสบดี นพ. แอนโธนี เฟาชี่ ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้แล้วก็โรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ให้มุมมองเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า โควิด-19 บางทีอาจกลายพันธุ์กระทั่งสามารถแพร่ระบาดได้เร็วขึ้น
ยอดติดโรควัววิด-19 ทะยานสัมผัส 11 ล้านรายทั่วทั้งโลกแล้ว
คาดอีก 2 อาทิตย์ได้ได้ผลทดลองยารักษาโควิด-19
ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เทดคอยส อัดนอม เกเบรเยซุส ได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่าผลของการทดลองยารักษาโควิด-19 หนแรกของอนามัยโลก จะได้มองเห็นในอีก 2 อาทิตย์ด้านหน้า ตามรายงานของรอยเตอร์
โดยการทดลองดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น จะเสาะหาแนวทางรักษาโคโรนาเชื้อไวรัส วัววิด-19 ที่เริ่มทดลองกับผู้เจ็บป่วย 5,500 รายใน 39 ประเทศทั่วทั้งโลก ตั้งแต่การใช้ยาเรมเดสซีเวียร์ (remdesivir) ยาไฮดรอกซีคลอโรควิน (hydroxychloroquine) ซึ่งเป็นยาต่อต้านไข้มาลาเรียที่หัวหน้าสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เอ่ยถึงโดยตลอด รวมทั้งกรุ๊ปยารักษาผู้ติดเชื้อโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง โลพิท้องนาเวียร์ หรือ รีโตนาเวียร์ (lopinavir/ritonavir)
ก่อนหน้าที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก จบการทดลองยากลุ่มไฮดรอกซีคลอโรควิน ข้างหลังผลการศึกษาเรียนรู้จำนวนมากต่างบอกว่าไม่ได้ผลสำหรับเพื่อการรักษาโควิด-19 แม้กระนั้นยังจะต้องวิจัยเพิ่มอีกหัวแข็งลุ่มนี้จะเห็นผลสำหรับการเป็นยาคุ้มครองปกป้องโควิด-19 หรือเปล่า
ด้าน นายไมค์ ไรอัน หัวหน้าแผนการรีบด่วนของอนามัยโลก ได้พูดว่า ปัจจุบันนี้มีวัคซีน 18 จำพวกทั่วทั้งโลกที่เริ่มทดลองในมนุษย์ ซึ่งบางทีอาจจะต้องคอยไปถึงปลายปีถึงจะได้มองเห็นความสามารถของวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเกิดเรื่องที่ไม่ฉลาดนักที่จะมาเดาว่าวัคซีนโควิดจะผลิตได้เมื่อไร จากที่ขณะนี้วัวโรท้องนาเชื้อไวรัสได้เอาชีวิตผู้คนเกินกว่าครึ่งล้านไปแล้ว
หัวหน้าโครงงานรีบด่วนของอนามัยโลก เรียกร้องให้นานาประเทศหาทางกำหนดพิกัดการระบาดใหม่ให้ได้เร็วที่สุด และก็รีบติดตามผู้ติดโรคและกักบริเวณเพื่อยับยั้งการระบาดของโควิด-19
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น